แพท ณปภา อธิบายเปิดใจงวดแรก เรื่องแต่งงาน-ตั้งท้อง


หลังมีข่าวลือออกมาว่านักแสดงสาวอารมณ์ดี แพท ณปภา กำลังตั้งท้อง พร้อมกับข่าวเม้าท์อีกว่าการขอแต่งงานของแฟนหนุ่ม เบนซ์ เรซซิ่ง นั้นเป็นการจัดฉากขึ้นมา ล่าสุด วันนี้ (19 ก.ย.) แพท และ เบนซ์ เรซซิ่ง ได้จับมือกันมาแถลงข่าว ณ อาคารมาลีนนท์ โดยทั้งคู่ได้เปิดใจแบบหมดเปลือกจริงๆ และบอกว่าตอนนี้กำลังมีข่าวดีเกิดขึ้น แพท ท้องได้ 4 เดือนแล้ว ท่ามกลางเสียงเฮของสื่อทุกสำนักที่มาร่วมทำข่าวและแสดงความยินดี

แพท : “จริงๆ แล้วที่แพทกับเบนซ์ไม่ได้ออกมาพูดตั้งแต่มันมีหลายปัจจัยซึ่งพอเราเห็นข่าว จริงๆ เราคิดว่าเรารอกันก่อนก็ได้ เพราะแพทกับเบนซ์เราเป็นคนตรงๆ ด้วยกันทั้งคู่ ที่เราออกมาพูดช้าเพราะเราอยากให้ชัวร์มากกว่า อยากให้มันชัวร์จริงๆ แล้วค่อยพูดไม่ใช่พูดออกไปแล้วต้องมานั่งแก้ไขทีหลัง เรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่เราวางแผนกันไม่ตั้งแต่แรก พี่เบนซ์ขอแพทแต่งงานมาตั้งแต่แรกแล้วแต่แพทไม่ยอมเสียทีเพราะตอนนั้นเรายังไม่ชัวร์ เลยปฎิเสธเขาไป คอนเซ็ปต์ของแพทที่แพทบอกกับเขาไปตั้งแต่แรกว่าถ้าไม่ท้องแพทไม่แต่ง”

แสดงว่าตอนนี้ท้องแล้ว?
แพท : “ใช่ค่ะ ถ้าไม่ท้องแพทก็ไม่แต่ง ตอนแรกที่เขาขอเราแต่งงานเขาเข้าใจว่าเราท้องแน่นอน แต่เผอิญว่าตัวเรายังไม่แน่ใจ ด้วยร่างกายของเรามั่นค่อนข้างมีปัญหามาตั้งแต่เราเด็กๆ ช่วงเริ่มต้นเลยบอกเขาว่าอย่าเพิ่งเลย เราอยากทำงาน ขอเช็คให้ชัวร์ก่อน ถ้ามันใช่มันลงตัวแล้วค่อยคิดเรื่องแต่งงานดีกว่า ซึ่งมันเป็นคอนเซ็ปต์ที่แพทให้สัมภาษณ์ไว้อยู่แล้ว ตัวแพทเองแต่ไหนแต่ไรไม่ได้คาดหวังเรื่องการแต่งงานอยู่แล้ว แพทแค่อยากมีลูก อยากมีครอบครัว มันเป็นสิ่งที่แพทพูดมาตลอด มันไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ น่าตื่นเต้นอะไรเลยค่ะ จากตอนแรกที่เราวางแผนกันว่าจะมีลูกปีหน้า เราเลยเข้าไปปรึกษาคุณหมอกันก่อนว่าเราอยากจะมีลูกปีหน้าต้องเตรียมตัวยังไง ด้วยแพทเองมีปัญหาอย่างที่บอก อายุเราสองคนก็กำลังพอดี จะ31ปีหน้า คุณหมอก็บอกว่าก็ดี ถ้าปล่อยเวลาให้เลยไปกว่านี้จะมีลูกยากขึ้น เราเองมีซีสต์ตั้งแต่เด็กๆกินยาคุมกำเนิดมาตลอด10ปี คุณหมอก็เลยแนะนำว่าถ้าอยากจะมีลูกปีหน้าให้เราเลือกที่จะหยุดกินยาคุมตั้งแต่ปีนี้ เพื่อจะได้เตรียมความพร้อมต่างๆ พอเราหยุดปุ๊บติดปั๊บเลยค่ะ(หัวเราะ) มาเร็วเชียว แพทกับเบนซ์พูดตรงๆ เราไม่แน่ใจว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเลยหรอ คนที่กินยาคุมมาตลอด10ปีลูกจะติดง่ายขนาดนั้นเลยหรอ ซึ่งคุณหมอเองก็ยังไม่ให้ความชัวร์กับเราด้วย เราเริ่มมารู้ตัวกันจริงๆ ตอนสัก2เดือน เราไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจมันก็ไม่ขึ้นว่าท้อง พอไปอัลตร้าซาวน์ก็ยังไม่เห็นเป็นตัวน้อง เห็นแต่ก้อนซีสต์ที่ชัด คุณหมอก็เลยนัดอีกทีตอนเกือบ3เดือนให้ไปตรวจใหม่ว่าใช่รึเปล่า อย่างที่บอกระยะเวลามันทำให้เราไม่แน่ใจว่าเขามีน้องจริงไหม แต่ช่วงตอนแรกๆ ที่พี่เบนซ์รู้เขาก็ขอเราแต่งงานเลย เพราะเขาคิดว่าเราท้องแน่นอน ตัวเราเองแหละที่คิดว่าคงไม่น่าจะติดเพราะร่างกายเราไม่โอเคเลยอยากให้ชัวร์ก่อน อย่างที่บอกการแต่งงานไม่ใช่ปัจจัยหลักสำหรับแพท เพราะเราผ่านอะไรกันมาเยอะมาก เห็นทั้งชีวิตครอบครัวเรา ครอบครัวเขา คนรอบข้างเรา การแต่งงานมันไม่ใช่ที่สุดของชีวิต แต่การอยู่ร่วมกัน มีครอบครัวที่ดีต่างหากที่มันเป็นสิ่งที่เราทั้งคู่คาดหวัง ทีนี้พอเราได้ไปตรวจมาครั้งล่าสุดเมือ3อาทิตย์ที่ผ่านมาเลยแน่ใจว่าน้องเขามาแล้วแหละ มาแบบแข็งแรงด้วย ตอนแรกคุณหมอกลัวเรื่องการฝังตัวของน้อง มันทำให้น้องมีโอกาสหลุดง่ายบวกกับแพทเองก็ทำงานหนักมากๆ คุณหมอเลยกลัวว่าน้องจะไม่สมบูรณ์ ทำให้เราเลยไม่กล้าบอกใครกลัวบอกไปแล้วจะมาเสียใจทีหลังถ้าน้องเขาไม่ได้อยู่กับเรา มันยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่ แต่พอคุณหมอคอนเฟิร์มว่าโอเคนะน้องสมบูรณ์แข็งแรง แล้วได้อย่างที่เราสองคนคาดหวังไว้”

อยากได้ลูกผู้ชายหรือผู้หญิง?
เบนซ์ : “ผมเป็นนักแข่งอยู่แล้วก็ต้องอยากได้ผู้ชาย”

เลยกลายเป็นที่มาของการขอแต่งงานที่สนามแข่งรถ?
เบนซ์ : “ผมคิดว่าในชีวิตคนๆนึงมันควรจะมีโมเม้นต์ประมาณนี้ ตัวผมเดินทางไปแข่งรถตลอด แพทเองเขาก็ทำงานเยอะเลยไม่ค่อยได้มีโอกาสมาเชียร์ แต่วันนั้นเขาว่างพอดีผมเลยคิดว่าถ้าสนามนี้ผมไม่ทำอะไรแบบนี้ผมคงไม่มีโอกาสได้ทำแบบนี้อีกแล้ว ไม่ได้มีการจัดฉากอะไรขึ้นแน่นอน ถ้าจัดฉากจริงๆ ผมจะพูดและทำได้ดีกว่านี้ ผมวางแผนล่วงหน้าแค่คืนเดียว ผมเป็นคนจองไฟท์บินไปเอง ผมเตี๊ยมกับทางทีมงานว่าถ้าเขามาผมจะขึ้นโพเดี้ยมสนาม จริงๆตั้งใจว่าจะได้ที่1แต่มันผิดแผนไปนิดนึง(หัวเราะ) ผมมัวแต่กังวลว่าจะพูดกับเขายังไง ก็เลยอดได้รางวัลเลย ผมเลยเตรียมแผน2ว่าในเมื่อไม่ได้รางวัลก็ไม่เป็นไร ขอทำฟอร์มขึ้นไปถ่ายรูป เราเองเป็นนักแข่ง ได้ฟิวส์ตรงนั้นคงจะเหมาะกว่า เราเป็นคนง่ายๆกัน ไม่ต้องไปปิดโรงแรมแพงๆ แล้วมันก็เป็นสไตล์ของเราด้วย”

วันนั้นกลัวแพทจะปฎิเสธอีกหรือเปล่าเพราะปฎิเสธไปรอบนึงแล้ว?
เบนซ์ : “เขาฟอร์มเยอะ ทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อน”
แพท : “วันนั้นตลกมาก ถ้าใครได้รู้จักเบนซ์จริงๆ จะรู้ว่าเขาเป็นคนไม่หวาน ถ้าบอกให้เขาทำอะไรเขาจะรู้สึกไม่อยากทำ เราตัดเรื่องแต่งงานไปแล้ว เราคิดว่าเราคุยเรื่องนี่กันไปเรียบร้อยแล้ว เขาคงจะมีความรู้สึกไม่อยากแต่งงานกับเราแล้วแหละ มันน่ารำคาญขอไปแล้วก็ไม่แต่ง เราจังความรู้สึกเขาได้ว่าเขาจะไม่ขอเราแต่งงานแล้ว เราคงได้อยู่กันไปแบบนี้ วันนั้นที่เขาจะทำเซอร์ไพร์สตอนแรกแพทติดงาน แล้วยกเลิกแพลนที่จะไปกับเขาไปแล้ว ตัวเขาเองก็ติดปัญหาเหมือนกัน เราเลยโมโหบอกโอเคงั้นไม่ต้องไป อยู่ดีๆ เขาก็โทรกลับมาว่าจองตั๋วให้เราแล้วเราเลยต้องบินไป วันนั้นในสนามแพทเองก็ยังงงว่าไม่ได้รางวัล ทำไมต้องขึ้นไปโพเดี้ยมพูดอะไรก็ไม่รู้ ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าเขาติดไวเรตไว้ที่ตัวเรายังพูดใส่เขาไปเลยว่าตอแหลม แล้วก็มีคนไปเขียนเม้าท์แพทว่าแพทเป็นคนสั่งให้ผู้ชายลงไปเอาดอกไม้มาให้ตัวเอง ในมือแพทเองใส่แหวนอยู่แล้วเตี๊ยมกันแน่ๆ อยากจะบอกว่าถ้าเตี๊ยมแพทคงถอดแหวนตัวเองออกก่อนแล้วให้เขาเอาไปใส่กล่องมันถึงจะสมบูรณ์แบบที่สุด ประเด็นคือวันนั้นเขาหลอกแพทว่าทางสนามอยากจะให้แพทไปพูดให้เป็นเกียรติกับทางสนามหน่อย เราก็งงว่าสามีเราก็ไม่ได้ถ้วยนะ พอขึ้นไปบนเวทีเขาก็ฟอร์มว่าเขาลืมหมวกแต่จริงๆ เขาลงไปเอาช่อดอกไม้ ขึ้นมาก็ยังฟอร์มต่อพูดว่าอยากจะขอบคุณแพทที่มาเชียร์เขา แพทก็ด่าในใจว่าตอแหลมจริงๆ ซึ่งมันเป็นโมเม้นต์ในชีวิตผู้หญิงคนนึงที่เราเคยคุยกับเขาไปแล้ว เราไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น เพราะเราไม่คิดว่าเขาจะทำอีกหลังจากที่เราปฎิเสธไป โมเม้น์ที่แพทหัวเราะมันเป็นเพราะว่าแพทเขิน พอลงจากเวทีแพทถามเขาทำไมถึงทำ คิดอะไรอยู่ พอโดนขอแต่งงานเลยโทรศัพท์ไปบอกเพื่อนว่ากูโดนขอแต่งงานว่ะ”
เบนซ์ : “อย่างที่บอกไปโอกาสมันพอเหมาะพอเจาะ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขัน และแพทมันเป็นสิ่งที่เรารักทั้งสองอย่าง เราอยากจะให้คนในสนามร่วมเป็นสักขีพยานเลยตัดสินใจขอแต่งงานในสนาม”
แพท : “ก่อนหน้านี้มันมีกระแสว่าทำไมแพทถึงต้องโกหกว่ายังไม่ได้ท้อง คือแพทยังไม่เคยออกมาบอกเลยนะว่าแพทไม่ได้ท้อง พอแพทมั่นใจว่าแพทท้องสิ่งแรกที่แพททำคือแพทบอกทุกคนเลยทั้งทีมงานเบื้องหน้าเบื้องหลังว่าให้ทุกคนเตรียมรับขวัญหลานนะ แต่อาจจะเร็วไปหน่อยนึง เพราะแพลนจริงๆเราตั้งใจจะท้องปีหน้าพอดีน้องเขาอยากจะมาก่อน ร่างกายเราคงแข็งแรงมาก คุณหมอก็บอกว่าโชคดีที่ร่างกายแพทแข็งแรง ตอนนี้เพิ่งจะเจาะเลือดตรวจร่างกายจริงจังเมือ2อาทิตย์ที่แล้วว่าตัวแพทมีโรคอะไรไหม และเพือจะตรวจดูว่าน้องเป็นเพศอะไร ก็สมหวังกันทั้งคู่เราได้ลูกชาย”

กี่เดือนแล้ว?
แพท : “4เดือนแล้วค่ะ รอรับขวัญหลานกันเลย ตื่นเต้น”

ความรู้สึกของการได้เป็นพ่อแม่เป็นอย่างไรบ้าง?
แพท : “พูดตรงๆว่าตอนนี้ยังเฉยๆ”
เบนซ์ : “จริงๆ ผมคิดว่าแพทท้องช้าไปนิดนึง ปีนี้พ่อของเราสองคนเสียชีวิตทั้งคู่เลยอาจจะไม่ได้เห็นหลาน”
แพท : “เราไม่คิดว่าพ่อของเราสองคนจะไปในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งคู่”

ตอนที่แพทเขาไปบอกแม่ว่าเราท้องเขาว่าไงบ้าง?
แพท : “ตอนที่พ่อป่วยเบนซ์ได้มีโอกาสเข้าไปเจอคุณพ่อ เข้าไปบอกคุณพ่อเรื่องแพทไว้เรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นอาทิตย์เดียวคุณพ่อเขาก็ไป ก่อนหน้านั้นเรายังเข้าไปบอกพ่ออยู่เลยว่าให้หายไวๆ ไม่แน่อาจจะได้เลี้ยงหลาน เราคิดว่าพูดแบบนี้เขาจะได้ดีขึ้น แต่ร่างกายพ่อก็ไม่ไหวแล้ว พ่อเบนซ์ก็เสียไปตอนต้นปีเหมือนกัน ตอนนี้เราเหมือนกันมากคือเราทั้งคู่เหลือแค่คุณแม่ทั้งสองบ้านก็ดีใจมาก ด้วยบ้านแพทเขาไม่ได้คาดหวังว่าแพทจะไม่มีลูก มีลูกยากที่สุด พอเขารู้ว่าเรามีน้องและน้องแข็งแรงทุกคนตอนนี้เลยแย่งกันเลี้ยงหลานทั้งบ้านแพทและบ้านเบนซ์”

วางแพลนจะมีการจัดงานแต่งงานไหม?
แพท : “อันนี้พูดตรงๆ เลยนะคะไม่คิดว่าเขาจะขอ เลยไม่ได้วางแพลนอะไรเลย คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่เขาแพลนกับที่บ้าน”
เบนซ์ : “ก็กำลังคุยๆ อยู่ครับ เพื่อนๆ ก็ถามตลอดว่าจะจัดงานที่ไหน เดี๋ยวผมขอคุยกับที่บ้านก่อน ถ้าทราบข่าวยังไงจะแจ้งอีกทีครับ จริงๆ ในชีวิตผมครั้งหนึ่งก็อยากจะมีงานแต่งงาน อยากจะรวมทุกคนที่รักไว้ด้วยกัน”

ตั้งใจอยากจัดงานแต่งก่อนคลอดหรือหลังคลอด?
เบนซ์ : “ใจจริงอยากจัดภายในปีนี้เพราะจะได้ทำอะไรได้สะดวก”

จากนี้วางแพลนจะให้แพทลดงานในวงการบันเทิงไปเลยไหม?
เบนซ์ : “ช่วงๆ แรกอาจจะต้องดูแลก่อน คงให้อยู่บ้านช่วยกันเลี้ยงดูไปก่อน ถ้าหลังจากนั้นมีงานค่อยว่ากันอีกที”

ละครปิดกล้องไปหมดแล้วหรือยัง?
แพท : “ยังค่ะ เรื่องละครปิดกล้องที่แพทเร่ง ไม่ใช่ว่าแพทรู้ตัวว่าท้องแต่ที่เร่งเพราะถ่ายค่อนข้างนาน และตอนแรกแพทรับหนังไว้เรื่องนึง เลยเร่งเขาไม่เกี่ยวกับเรื่องท้องอย่างที่ทุกคนเข้าใจ จริงๆ เปิดกล้องมาสักพักแล้วแต่ที่เลทเพราะเปลี่ยนผู้กำกับเลยรื้อถ่ายมา ทำให้เลทออกไป 2 เดือนกว่า จนสุดท้ายแพทไม่ได้รับหนัง เทคิวให้ละครแทน”

มีอาการแพ้ท้องบ้างไหม?
แพท : “ไม่มีเลยค่ะ นั้นคือเหตุผลที่ทำให้แพทรู้ตัวช้าด้วย คือแพทกินปกติ ไม่มีอาการแพ้เลย ยังเต้น ยังแว้นซ์ปกติ มีแค่ช่วงนี้อาจจะเป็นหนองโพหน่อยนึง ซึ่งสามีแฮปปี้มากค่ะ แต่เราไม่ค่อยอวบ น้ำหนักขึ้นมา 3 กิโลเอง แต่คุณหมอบอกว่าเดือนหน้าจะน้ำหนักขึ้นกว่านี้ คุณหมอบอกว่าโชคดีที่เราดูแลซีสต์มาดีตลอด 10กว่าปี มันเลยเล็กลงตามยาที่ทานตลอด ประจวบกับว่าซีสต์ที่เราเป็นการมีน้องทำให้ดีขึ้นเพราะเราผ่าเอาออกทีเดียวเลยค่ะ”

จะจดทะเบียนเลยไหม?
แพท : “จะแต่งก่อนค่ะ เอาตรงๆ คือไม่รู้เลย(หัวเราะ) เราไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรก่อนหลัง รู้แค่ตอนนี้อยากให้เขาออกมาเร็วๆ อยากรู้ว่าจะหัวทองเหมือนพ่อไหม และมีส่วนไหนเหมือนเราไหม”

จากนี้จะหยุดแว้นซ์เลยหรือเปล่า?
แพท : “เพิ่งจะทะเลาะกันไปค่ะ เราคิดว่าเราแข็งแรงมาก เราเลยขอเขาจะซื้อมอเตอร์ไซค์เพื่อที่จะขี่เอง คุณหมอบอกว่าเราและลูกแข็งแรงมาก เราต้องให้ลูกเราซึมซับ ไม่รู้ว่าเราใช้สมองส่วนไหนคิด สรุปเราก็ไม่ซื้อ เขาบอกถ้าจะไปไหนให้ซ้อนคันที่นั่งได้สบาย ขอเบาๆ ไปก่อนไม่ต้องผาดโผนมาก”

กลัวคนจะมองไม่ดีว่าเป็นการท้องก่อนแต่งไหม?
แพท : “ไม่เลยค่ะ แพทว่ามันแล้วแต่ ตัวแพทเองบอกไปตั้งแต่แรกแล้วว่าจุดมุ่งหมายของแพทคือการมีครอบครัว เราไม่ได้มาพูดตอนที่เรากำลังท้อง แต่แพทพูดตั้งแต่ปีที่แล้ว ก่อนจะเจอผู้ชายคนนี้ว่าจุดประสงค์คือมีครอบครัว ถ้าแต่งงานแล้วผู้ชายไหวก็แต่งค่ะ แต่ถ้าไม่ไหวก็ไม่แต่ง ที่เราพูดแบบนี้เรายังบอกเบนซ์เลยว่าเราอยากเก็บเงินไว้ใช้มากกว่า ถ้าแต่งแล้วสิ้นเปลืองก็ไม่แต่งเอาเงินมาเลี้ยงลูก เล่้ยงครอบครัวดีกว่า แต่แพทไม่แนะนำว่าทุกคนต้องคิดแบบแพท ไม่แนะนำว่าต้องท้องก่อนแต่ง เอาที่คุณสะดวก ถ้าสะดวกแต่งก่อนก็แต่งค่อยมีลูก แต่แพทสะดวกมีลูกก่อน”
เบนซ์ : “เอาจริงๆ อายุเราก็ไม่น้อย ถ้าอายุยิ่งเยอะขึ้นก็ยิ่งมีความเสี่ยง”

คาดหวังการใช้ชีวิตคู่มากน้อยแค่ไหน?
แพท : “เอาตรงๆ ยังไม่ได้คิด คือเราไม่ได้อยากให้ทุกคนเลียนแบบแพททุกคน คนเราถูกเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน บังเอิญบ้านแพทเป็นแบบนี้ ไม่มีใครจัดงานแต่งงานเลย แม่แพทเองก็เหมือนกัน เขาก็อยู่ประคับประคองก่อน วันหนึ่งถ้าไปไม่ได้ก็แค่แยกทางกัน ที่บ้านแพทสอนแค่ว่าเอาให้ถูกกาละเทศะ ให้มาขอเท่านี้ก็เรียบร้อย หลังจากนั้นครอบครัวแพทไม่ห่วงว่าจะต้องจัดงานใหญ่โต เขาแต่อยากให้เราอยู่กันให้ได้ เขาสอนให้เห็นว่าหลายคู่ที่แต่งอยู่ด้วยกันไม่ได้ เราแค่ใช้ชีวิตเป็นครอบครัวให้รอด”

ตอนเข้าไปขอคุณแม่แพทว่ายังไงบ้าง?
แพท : “ตอนนี้คุณแม่เขายิ้มกับหัวเราะอย่างเดียว พูดอะไรเขายิ้มอย่างเดียว ผู้ชายไปขอแม่ก็หัวเราะใส่อย่างเดียว เราก็บอกโอเคเบนซ์แล้วแหละ”
เบนซ์ : “ครอบครัวผมก็ดีใจครับ เพราะที่บ้านยังไม่มีหลานชายเลย มีแต่หลานสาว”

มีข่าวว่าแพทถูกถอดพรีเซ็นเตอร์ออกหลังมีข่าวตั้งท้อง จริงไหม?
แพท : “ไม่มีถอดเลยค่ะสักตัว ขอบคุณมากนะค่ะที่เอ็นดูแพทและหลาน จะบอกว่าทุกตัวน่ารักมากเลย จริงๆ แพทแอบเป็นกังวลมากเพราะที่อยากมีปีหน้าเพราะเราบอกเบนซ์ไว้ว่าเราติดสัญญาหลายตัว กลัวว่าจะมีปัญหา แต่พอบอกเขาไปทุกคนกลับบอกว่าให้รีบมีลูกเลยนะ คือเรายังไม่ทันบอกเขาเลยว่ามีน้องแต่เขาเห็นข่าวที่เราจะแต่งงาน ทุกคนก็บอกว่าถ้าเรามีลำบากหรืออยากจะไปโรงพยาบาลไหนให้บอก ซึ่งทุกคนน่ารักมาก”

หลังเบนซ์ทราบข่าวว่าเราจะมีลูก เบนซ์รู้สึกยังไง?
แพท : “เบนซ์เป็นคนตลกจริงๆ นะคะ ภาพแรกที่เขาส่งมาคือเด็กใส่หมวกกันน็อค เราก็ถามว่าแล้วแพทจะเบ่งออกมายังไง คือแพทไม่ได้แพลนอะไรแค่รู้ว่าเป็นเด็กผู้ชายก็โอเคแล้ว เพราะเราชอบเด็กผู้ชายทั้งคู่ แพทอยากให้เขาเป็นเหมือนพ่อเขาเพราะเราชอบสายนี้ แต่ตัวพ่อเขาอยากให้ลูกเป็นอะไรก็ได้ แต่ไม่อยากให้เหมือนพ่อ เพราะเป็นห่วงกลัวลูกจะผาดโผนกว่า”

ตอนนี้เราอาศัยกันอยู่ที่ไหน บ้านใคร?
แพท : “ไปๆ มาๆ ค่ะ เหมือนเดิมทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พอถึงเวลาเราก็กลับมาดูแลคุณแม่ ถ้ามีเวลาว่างเราก็มาเจอกัน”

กลัวจะมีปัญหาเกิดขึ้นทีหลังเพราะต่างคนต่างอยู่?
แพท : “อันนี้ก็ตอบไม่ได้ค่ะว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร คือแพทกับเบนซ์เราแต่วันนี้กับพรุ่งนี้ ถ้ามองไกลไปก็ไม่รู้จะไปถึงหรือเปล่า ขอแค่วันนี้เรารักกันดีแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เราตื่นมาเจอกันก็ทำให้ดีกว่าเดิม แะทำแบบนี้ไปทุกวัน ส่วนอนาคตจะเป็นยังไงก็บอกไม่ได้ อย่างที่แพทเคยพูดมาตลอดคนคลกันมา 12 ปียังเลิกกัน มีลูกกัน 1-2 คนก็เลิกกัน บางคนจัดงานแต่งใหญ่มาก ผ่านไปไม่นานก็เลิกกันก็มี ซึ่งตรงนั้นเราไม่ได้คาดหวัง เราทำวันนี้ให้ดีก็พอ ถ้าเรามีอะไรไม่เข้าใจก็เคลียร์กัน พรุ่งนี้ค่อยเคลียร์ใหม่”

อะไรที่ทำให้แพทตัดสินใจเลือกผู้ชายคนนี้เป็นสามีและพ่อของลูก?
แพท : “เขาน่ารักค่ะ อย่างแรกเลยเราชอบเหมือนกัน เป็นสิ่งที่เราคุยกันรู้เรื่อง สองคือเขาเป็นคนอารมณ์ดีมาก ดีกว่าแพทอีกเข้าข่ายบ้าเลย มันทำให้ทุกๆ วันที่แพทกลับมา แพทมีความสุข เขามองทุกเรื่องเป็นเรื่องเล็กหมดเลย จนทำให้เรามองว่าทำไมเราต้องมองทุกเรื่องบนโลกนี้เป็นเรื่องใหญ่ไปหมด ซึ่งแพทต้องการคนแบบนี้ค่ะ เพราะตอนนี้แพทเหมือนเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องดูแลคนในครอบครัวทุกคน ทุกคนหวังพึ่งเรา แล้วตัวแพทล่ะก็หวังพึ่งใครสักคนเหมือนกัน และบังเอิญผู้ชายคนนี้ก็มาให้เราพึ่งได้พอดี เลยอยากจะฝากชีวิตไว้กับเขา”

กลัวไหมว่าคนจะมองว่าเราคบพร้อมกับแพทเพราะแพทเป็นดารา?
เบนซ์ : “ไม่เกี่ยวกับที่เขาเป็นศิลปินดารา ผมชอบเขาเพราะเขาเป็นคนเรียบง่าย สบายๆ และชอบอะไรเหมือนกัน เลยทำให้เราเข้ากันได้ดีครับ ไม่ต้องพูดอะไรมากเราก็เข้าใจ”

ระยะเวลาที่คบหากันเท่าไหร่?
แพท : “จริงๆ เป็นเพื่อนกันมา 7 ปี สมัยยังแว้นซ์กันแบบจริงๆ หลังจากนั้นก็ห่างหายกันไปใช้ชีวิต พอกลับมาเจอกันอีกทีรู้สึกใช่ ก็เลยเริ่มคุยกันแบบจริงจัง จนทำให้เราได้มีปิดป้องและกันในวันนี้ คือเราดูใจกันแค่ 7-8 เดือนเอง แต่อาจโชคดีที่เรารู้จักกันมาก่อน เลยทำให้เรารู้ว่าเขาโอเคยังไงบ้าง”

ได้คิดชื่อลูกไว้บ้างยัง?
แพท : “ไม่มีค่ะ นี้เป็นคำถามที่แพทถามเบนซ์เพราะว่าตลอด เขาบอกว่ามันหมายถึงเรื่องยาก ต้องให้เวลาเขาคิดนิดนึง คือแพทให้เขาเป็นคนตั้งค่ะ”
เบนซ์ “เขาเกิดมาเป็นคนพิเศษ เลยต้องให้ชื่อพิเศษนิดนึง โหยให้ชื่อไม่เหมือนใคร ขอเวลาคิดนิดนึง”

จะมีคนที่สองต่อเลยไหม?
แพท : “ยังค่ะๆ ขอดูคนแรกก่อน”

อยากพูดอะไรกับแฟนคลับที่ร่วมยินดี?
แพท : “จริงๆ ต้องบอกเลยว่า แฟนคลับแพทค่อนข้างโอเค ทุกคนมาให้กำลังใจและเชียร์แบบเข้าใจโลกค่ะ มีเพียงแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่เข้าใจ หรืออาจจะอยู่ในโลกทุ่งลาเวนเดอร์ คือมันเป็นคำที่แพทกับเบนซ์พูดกันบ่อยๆ ว่า ไม่เป็นเรา เราไม่ได้เกิดในทุ่งลาเวนเดอร์ ไม่ได้อยู่ในโลกสวยๆ แบบเขา เกิดมาโรยด้วยกลีบกุหลาบ เลยอาจจะมีโพสต์อะไรแปลกๆ บางโพสต์บอกว่าพี่เบนซ์แต่งงานแล้ว คือเบนซ์เก่งมากเลยนะ 7-8 ปรที่รู้จักกันมา เขสไม่มีข่าวหลุดออกมา คือพยายามขุดคุ้ยแต่แพทบอกเลยว่าไม่มีแน่นอน”

Share on FacebookShare on Google+Tweet about this on TwitterShare on LinkedInShare on Tumblr