คณะกรรมการที่ปรึกษาเศรษฐกิจของสมาคมนายธนาคารอเมริกัน ซึ่งเป็นกลุ่มหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารรายใหญ่ ซึ่งรวมถึง Citigroup Incและ Morgan Stanley คาดว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน Phase One ที่ได้รับการลงนามในสัปดาห์นี้ B จะ “ไม่” สามารถหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปี 2020 ได้ โดยคาดว่าการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะชะลอตัวสู่ 1.9% ในปี 2019 และจะอยู่ที่ระดับนั้นในปี 2020 ซึ่งขัดแย้งกับทัศนะบวกของคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่คาดการณ์ว่าจีดีพีในปีนี้จะขยายตัวที่ระดับ 2.5% และสะท้อนมุมมองเชิงลบต่อข้อตกลงการค้ารวมไปถึงแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ จึงอีกหนึ่งสาเหตุสําคัญที่ทําให้ยังมีแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคําจนทําให้ราคายังคงทรงตัวในระดับสูง เบื้องต้น ในระยะสั้นแนะนํานักลงทุนที่สะสมทองคําไว้ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านบริเวณ 1,558-1,561 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หรือไม่ หากไม่สามารถผ่านไปได้ ให้ลดการถือครองทองคําลงเพื่อควบคุมความเสี่ยงและหากราคาทองคํามีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงสามารถซื้อเก็งกําไรระยะสั้น ทั้งนี้ ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,545-1,536 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากความเสี่ยงได้น้อยอาจชะลอการลงทุนไปก่อนเพื่อรอความชัดเจนอีกครั้ง ที่มา ylgbullion.co.th
Tag Archives: ทองคำแท่ง
ข่าวราคาทองคำ 4 กันยายน 2562 (ภาคค่ำ)
หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานว่า นางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เตรียมประกาศการถอนร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศจีนอย่างเป็นทางการในช่วงบ่ายวันนี้ ส่งผลให้ตลาดกลับมาเปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง ทําให้ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงทะยานขึ้นกว่า 4%,ดัชนี MSCI ของเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น 1.5% ส่วนดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวขึ้นกว่า 200 จุดบ่งชี้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐในวันนี้ มีแนวโน้มจะเปิดตลาดในแดนบวก ส่งผลให้ราคาทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเผชิญกับแรงขายทํากําไรจนราคาลดช่วงบวกลง อย่างไรก็ดี ราคาทองยังคงพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้ได้จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสงครามการค้าจีน-สหรัฐรวมไปถึงความวิตกเกี่ยวกับชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ หากราคาทองจะพยายามปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,555 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจโดนแรงขายออกมาหากไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามาผลักดันราคา ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวัง โดยนักลงทุนที่สะสมทองคําไว้อาจมีการขายทํากําไรบ้างส่วนออกมาบ้างลดความเสี่ยง และหากเห็นการย่อตัวลงของราคาทองคําสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,528ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จึงพิจาณาเข้าซื้ออีกครั้ง ที่มา ylgbullion.co.th
ข่าวราคาทองคำ 31 กรกฎาคม 2562 (ภาคเช้า)
ราคาทองคําวานนี้ ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคํายังคงได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดอัตรา ดอกเบี้ย ในการประชุมที่จะเสร็จสิ้นลงในช่วงกลางดึกของวันนี้ ท่ามกลางแรงกดดันจากประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ล่าสุดกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า อยากเห็นการลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ และอยากให้เฟดยุติการคุมเข้มเชิงปริมาณโดยทันที นอกจากนี้ ราคาทองคํายังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากความต้องการทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังปธน.ทรัมป์ทวีตโจมตีรัฐบาลจีนที่ไม่ได้ซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐและตั้งใจถ่วงเวลาการเจรจาการค้า เพื่อรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า ซึ่งทําลายคาดหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงการค้าในการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ อย่างไรก็ดีราคาทองคําแกว่งตัวแคบ โดยนักลงทุนรอดูผลการประชุมเฟดในเวลา 01.00 น.และแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ในเวลา 01.30 น. แม้ตลาดจะ Price-in แล้วว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ แต่ต้องติดตามว่าเฟดจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการดําเนินนโยบายการเงินในช่วงที่เหลือของปีนี้ อย่างไร หากเฟดส่งสัญญาณในเชิงผ่อนคลายนโยบายการเงิน (Dovish) น้อยกว่าคาด อาจสร้างแรงขายให้กับตลาดทองคํา แต่หาก Dovish มากกว่าคาดก็อาจเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคําได้เช่นกัน ที่มา ylgbullion.co.th
ข่าวราคาทองคำ 10 มิถุนายน 2562 (ภาคค่ำ)
ราคาทองวันนี้ ธนาคารกลางอิตาลีระบุว่า เศรษฐกิจอิตาลีจะเติบโตเพียง 0.3% ในปีนี้ ซึ่งลดจากคาดการณ์ที่ปรับลดอยู่แล้วที่ 0.6% ในเดือนม.ค. จากความอ่อนแอลงด้านอุปสงค์ต่างชาติและความไม่แน่นอนของผู้ประกอบการ แนวโน้มดังกล่าว สอดคล้องกับ คณะกรรมาธิการยุโรปจะเรียกร้องให้อิตาลีลดงบประมาณลงประมาณ 3-4 พันล้านยูโร เพื่อหลีกเลี่ยงการควํ่าบาตรจากสหภาพยุโรป แม้ว่านายจิโอวานนี เทรีย รัฐมนตรีคลังอิตาลีระบุว่า เขามั่นใจว่า เขาจะสามารถทําข้อตกลงกับคณะกรรมาธิการยุโรปเกี่ยวกับการคลังสาธารณะของอิตาลี แม้มีคําขู่เรื่องการดําเนินการทางวินัย แต่สถานการณ์ดังกล่าวทําให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินยูโรลง ซึ่งส่งผลลบต่อราคาทองคําด้วยเช่นกัน สําหรับการลงทุนในช่วงเวลานี้ ต้องเน้นไปที่การเก็งกําไรระยะสั้น ในขณะที่หากต้องการขายทองคําให้รอจังหวะราคาดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ1,337-1,348 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่สําหรับนักลงทุนที่ไม่มีการถือครองทองคําไว้และหากสามารถรับความเสี่ยงได้มาก อาจรอเข้าซื้อบางส่วนเมื่อราคาทองย่อตัวลงสู่แนวรับโซน 1,324-1,311 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่มา ylgbullion.co.th
ข่าวราคาทองคำ 22 มีนาคม 2562 (ภาคบ่าย)
ราคาทองคำช่วงเช้าย่อตัวลง หลังวานนี้ปรับตัวขึ้นแตะ 1,320.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตอบรับการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เดือนมี.ค.ที่เสร็จสิ้้นลง แม้การประชุมจะส่งผลบวกต่อราคาทอง แต่ก็ได้ส่งผลบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง (Risk asset)ด้วยเช่นกัน ดันดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้น นิวยอร์กปิดบวกกว่า 200จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ท่ามกลางความหวังว่าเฟดจะใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายเพื่อยับยังการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ราคาทองย้อนหลัง ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจึงเผชิญแรงขายสลับออกมา อย่างไรก็ตามแนะนำให้นักลงทุนติดตามแนวโน้มราคาทอง เศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างใกล้ชิด เพราะแม้ว่าเศรษฐกิจถูกพยุงไว้ด้วยนโยบายจากธนาคารกลางต่างๆ อาทิ ธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางญี่ปุ่น รวมไปถึงธนาคารกลางจีน ที่ต่างก็พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ท่ามกลางปัญหาที่ยังคงมีความไม่แน่นอนต่างๆ อาทิ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน, ปัญหา Brexit ที่ยืดเยื้อและยังไม่แน่นอน, ความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะของสหรัฐที่อยู่ในระดับสูง อาจกลับมาหนุนราคาทอง ได้ในอนาคตอันใกล้นี้ ด้านปัจจัยทางเทคนิค ประเมินว่า ราคาทองวันนี้ อาจชะลอการปรับตัวขึ้นหลังจากราคาดีดตัวเข้าใกล้กรอบด้านบนและมีแรงขายออกมาบริเวณโซน 1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้น ยังต้องติดตามการเคลื่อนไหวของราคาทอง หากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,317 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสที่จะเผชิญแรงขายลงสู่แนวรับในโซน 1,298 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นเก็งกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน โดยหากราคาทองไม่ผ่านแนวต้าน การเปิดสถานะขายอาจพิจารณาบริเวณ 1,317ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากยืนเหนือ 1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้) การเข้าซื้อยังแนะนำให้รอพิจารณาบริเวณ […]
ข่าวราคาทองคำ 12 มีนาคม 2562 (ภาคเช้า)
ราคาทองย้อนหลัง ปิดปรับตัวลดลง 4.88 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองวันนี้ได้รับกดดันจากการฟื้นตัวขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุด หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกและยอดค้าปลีกพื้นฐานประจําเดือนม.ค.ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งช่วยบรรเทาความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกลงจนกดดันให้เกิดแรงขายทํากําไรทองคําที่ อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ดี การปรับตัวลงของราคาทองยังอยู่ในกรอบจํากัด โดยได้รับอานิสงค์จากดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของเงินปอนด์หลังจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า นางเทเรซา เมย์นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้รับความเห็นชอบจากสหภาพยุโรป (EU) ให้ทําการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก่อนที่รัฐสภาอังกฤษจะทําการลงมติต่อข้อตกลงดังกล่าวของนางเมย์ในวันนี้ตามเวลาอังกฤษ ด้านกองทุน SPDR กลับมาถือครองทองคําเพิ่มวานนี้ +2.94 ตัน สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)และแถลงการณ์ของนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในผู้ว่าการเฟด รวมถึงจับตาการลงมติต่อข้อตกลง Brexit หากรัฐสภาอังกฤษคว่ำร่างก็จะทําการลงมติในวันพฤหัสบดีว่าจะขยายกําหนดเวลาการแยกตัวจากเดิมในวันที่ 29 มี.ค.หรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องจับตาอย่างต่อเนื่อง ที่มา ylgbullion.co.th ราคาทองย้อนหลัง